Chalita and Associates Lawyer Office v1.4.3
083-691-4990
line@lawyerbefair
lawyerbefair@gmail.com
line@lawyerbefair
083-691-4990
โดย ทนายชลิตา หนูพลัด

ฎีกาที่ 592/2540

        โจทก์ตกลงแต่งงานกับจำเลยที่ 3 โดยวิธีผู้ข้อมือ แสดงว่าโจทก์และจำเลยที่ 3 มิได้มีเจตนาทำการสมรสโดยจดทะเบียนสมรสกันตาม ป.พ.พ.มาตรา 1457 ดังนั้น ทรัพย์สินที่โจทก์ส่งมอบให้จำเลยทั้งสามจึงไม่ใช่ของหมั้น เพราะไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์มอบให้จำเลยทั้งสามเพื่อเป็นหลักฐานการหมั้นและประกันว่าจะสมรสกับจำเลยที่ 3 และไม่ใช่สินสอดเพราะไม่ใช่ทรัพย์สินที่โจทก์ให้แก่จำเลยที่ 1 และที่ 2 บิดามารดาของจำเลยที่ 3 เพื่อตอบแทนการที่จำเลยที่ 3 ยอมสมรสตามมาตรา 1437 โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกคืน การที่จำเลยที่ 3 ไม่ยอมให้โจทก์ร่วมหลับนอนนั้นเป็นสิทธิของจำเลยที่ 3 เพราะการสมรสระหว่างโจทก์และจำเลยที่ 3 จะทำได้ต่อเมื่อจำเลยที่ 3 ยินยอมเป็นสามีภรรยากับโจทก์ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1458 การที่จำเลยที่ 3 ไม่ยินยอมหลับนอนกับโทก์ไม่เป็นการละเมิดต่อโจทก์ หรือผิดสัญญาหมั้น โจทก์จึงไม่มีสิทธิเรียกค่าทดแทนหรือค่าเสียหายจากจำเลยทั้งสามตาม ป.พ.พ.มาตรา 1439 และมาตรา 1440


หากต้องการปรึกษาทนายความ คลิก

หรือติดตามทนาย ผ่าน Facebook : ทนายชลิตา แยม