คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5306-5307/2557
พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 บัญญัติว่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ห้ามมิให้บุคคลใดยึดถือครอบครองทำประโยชน์หรืออยู่อาศัยในที่ดิน และมาตรา 12 บัญญัติว่า ให้บุคคลผู้อ้างสิทธิหรือได้ทำประโยชน์ในเขตป่าสงวนแห่งชาติอยู่ก่อนวันที่กฎกระทรวงกำหนดป่าสงวนแห่งชาตินั้นใช้บังคับ ให้ยื่นคำร้องภายใน 90 วัน มิฉะนั้นถือว่าสละสิทธิหรือประโยชน์นั้น และมิให้ใช้บังคับแก่กรณีสิทธิในที่ดินที่บุคคลมีอยู่ตามประมวลกฎหมายที่ดิน ซึ่งบทบัญญัติดังกล่าวเป็นเพียงบทบัญญัติที่ใช้บังคับระหว่างรัฐกับราษฎรและมีผลให้ราษฎรที่เข้ายึดถือครอบครองที่ดินไม่ได้สิทธิครอบครองโดยชอบด้วยกฎหมาย ทั้งไม่อาจอ้างสิทธิใดๆ ใช้ยันรัฐได้ แต่ในระหว่างราษฎรด้วยกัน ผู้ที่ครอบครองทำประโยชน์อยู่ก่อนย่อมมีสิทธิที่จะไม่ถูกรบกวนโดยบุคคลอื่น ดังนั้น แม้จำเลยที่ 4 จะเป็นผู้มีสิทธิตามประมวลกฎหมายที่ดิน ตามสำเนาหนังสือรับรองการทำประโยชน์ (น.ส.3) เลขที่ 117 แต่เมื่อข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โจทก์ทั้งสามเป็นฝ่ายครอบครองทำประโยชน์ในที่ดินพิพาททั้งสามแปลง และจำเลยที่ 4 นำชี้ออกโฉนดรุกล้ำเข้าไปในที่ดินที่โจทก์ทั้งสามครอบครองทำประโยชน์อยู่ก่อนย่อมเป็นการรบกวนการถือครองของโจทก์ทั้งสาม โจทก์ทั้งสามย่อมยกการยึดถือครอบครองก่อนขึ้นปลดเปลื้องมิให้จำเลยที่ 4 เข้ามารบกวนการครอบครองได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1374 วรรคหนึ่ง