บุตรไม่ชอบด้วยกฎหมาย ฟ้องเรียกขาดไร้อุปการะได้

       บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย หมายถึง บุตรที่บิดามารดามิได้สมรสกัน หรือบุตรที่บิดาไม่ได้จดทะเบียนรับรองว่าเป็นบุตร หรือบุตรที่ศาลมิได้พิพากษาว่าเป็นบุตร ดังนั้น ในกรณีที่บิดาถูกทำละเมิดถึงแก่ความตาย เช่น ถูกรถชนตาย ถูกยิงตาย ถูกทำร้ายถึงตาย ฯลฯ มีผลทำให้ บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ

             บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย จะกลายเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมาย ตาม ป.พ.พ. มาตรา 1547 ก็ต่อเมื่อ

             1. บิดามารดาได้สมรสกันภายหลัง

             2. บิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตร

             3. ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร

             ดังนั้น หากทำให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลายเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายในขณะบิดาถูกทำละเมิดถึงแก่ความตายได้ บุตรนั้นย่อมมีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ

ต้องการให้ทนายความฟ้องขอให้ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตร คลิก

ถาม : ทำอย่างไร จึงจะเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย

ตอบ : ต้องฟ้องขอรับรองบุตรของผู้ตาย เพื่อขอให้ศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บิดาถึงแก่ความตาย ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1558

             มาตรา 1558 บัญญัติว่า “การฟ้องคดีขอให้รับเด็กเป็นบุตรของผู้ตายที่ได้ฟ้องภายในกำหนดอายุความมรดก ถ้าศาลได้พิพากษาว่าเด็กเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย เด็กนั้นมีสิทธิรับมรดกในฐานะทายาทโดยธรรม

             ในกรณีที่ได้มีการแบ่งมรดกไปแล้ว ให้นำบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายนี้ว่าด้วยเรื่องลาภมิควรได้มาใช้บังคับโดยอนุโลม”

ถาม : ถ้าศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย มีผลอย่างไร จะทำให้มีสิทธิได้เรียกร้องค่าขาดไร้อุปการะหรือไม่ 

ตอบ : หากศาลมีคำพิพากษาเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย มีผลทำให้บุตรที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย กลายเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายและมีผลนับตั้งแต่วันที่เด็กเกิด ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1557 เมื่อเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายตั้งแต่เด็กเกิดแล้ว มีผลทำให้ในขณะที่บิดาถูกทำละเมิดให้ตายเด็กก็เป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายเช่นกัน จึงมีสิทธิฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะจากผู้ทำละเมิดให้บิดาถึงแก่ความตายได้

             มาตรา 1557 บัญญัติว่า “การเป็นบุตรชอบด้วยกฎหมายตามมาตรา 1547 ให้มีผลนับแต่วันที่เด็กเกิด แต่ทั้งนี้จะอ้างเป็นเหตุเสื่อมสิทธิของบุคคลภายนอกผู้ทำการโดยสุจริตในระหว่างเวลาตั้งแต่เด็กเกิดจนถึงเวลาที่บิดามารดาได้สมรสกันหรือบิดาได้จดทะเบียนว่าเป็นบุตรหรือศาลพิพากษาถึงที่สุดว่าเป็นบุตรไม่ได้”

             *** ดังนั้น หากบิดาถูกทำละเมิดให้ตาย ต้องรีบยื่นฟ้องขอศาลพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย ภายใน 1 ปี นับแต่วันที่บิดาถูกทำละเมิดให้ตาย ก่อนที่จะฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะในคดีแพ่ง หรือก่อนยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1

             หากฟ้องเรียกค่าขาดไร้อุปการะในคดีแพ่ง หรือก่อนยื่นคำร้องขอเรียกค่าสินไหมทดแทน ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 44/1 ก่อนฟ้องขอให้ศาลจะพิพากษาว่าเป็นบุตรโดยชอบด้วยกฎหมายของผู้ตาย บุตรโดยไม่ชอบด้วยกฎหมายย่อมไม่มีสิทธิได้รับค่าขาดไร้อุปการะ