ผู้เยาว์หมั้น
มาตรา 1436 บัญญัติว่า “ผู้เยาว์จะทำการหมั้นได้ต้องได้รับความยินยอมของบุคคลดังต่อไปนี้
(1) บิดาและมารดา ในกรณีที่มีทั้งบิดามารดา
(2) บิดาหรือมารดา ในกรณีที่มารดาหรือบิดาตายหรือถูกถอนอำนาจปกครองหรือไม่อยู่ในสภาพหรือฐานะที่อาจให้ความยินยอม หรือโดยพฤติการณ์ผู้เยาว์ไม่อาจขอความยินยอมจากมารดาหรือบิดาได้
(3) ผู้รับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม
(4) ผู้ปกครอง ในกรณีที่ไม่มีบุคคลซึ่งอาจให้ความยินยอมตาม (1) (2) และ (3) หรือมีแต่บุคคลดังกล่าวถูกถอนอำนาจปกครอง
การหมั้นที่ผู้เยาว์ทำโดยปราศจากความยินยอมดังกล่าวเป็นโมฆียะ”
การที่ผู้เยาว์จะทำการหมั้นได้นั้น จะต้องได้รับความยินยอมจากบุคคลตามตาม ป.พ.พ.มาตรา 1436 วรรคหนึ่ง มีดังนี้
1) บิดาและมารดา ในกรณีที่ผู้เยาว์มีทั้งบิดาและมารดา
เพราะ บุตรซึ่งยังไม่บรรลุนิติภาวะต้องอยู่ภายใต้อำนาจของบิดาและมารดาทั้งสองคน ตามมาตรา 1566 วรรคหนึ่ง ดังนั้น ในการที่ผู้เยาว์จะทำการหมั้นต้องได้รับความยินยอมจากบิดามารดาทั้งสองคนก่อน
2) บิดาหรือมารดา เฉพาะในกรณีดังต่อไปนี้
(1) มารดาหรือบิดาตาย
(2) บิดาหรือมารดาถูกถอนอำนาจปกครอง
(3) บิดาหรือมารดาไม่อยู่ในสภาพหรือฐานะที่อาจให้ความยินยอม
คือ เป็นกรณีตามมาตรา 1566 วรรคสอง (3)มารดาหรือบิดาถูกศาลสั่งให้เป็นคนไร้ความสามารถหรือเสมือนไร้ความสามารถ (4)มารดาหรือบิดาต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลเพราะจิตฟั่นเฟือน
(4) ศาลสั่งให้อำนาจปกครองอยู่กับบิดาหรือมารดา (6)บิดาและมารดาตกลง่กันตามที่มีกฎหมายบัญญัติไว้ให้ตกลงกันได้
(5) โดยพฤติการณ์ผู้เยาว์ไม่อาจขอความยินยอมจากมารดาหรือบิดาได้
หมายถึง กรณีที่ไม่แน่นอนว่ามารดาหรือบิดามีชีวิตอยู่หรือตาย ตามมาตรา 1566 วรรคสอง(2)
3) ผู้รับบุตรบุญธรรม ในกรณีที่ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม
เพราะ บิดามารดาโดยกำเนิดหมดอำนาจปกครองผู้เยาว์ไปตั้งแต่ที่ได้มีการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรมแล้ว บุตรบุญธรรมจึงมีฐานะอย่างเดียวกับบุตรชอบด้วยกฎหมายของผู้รับบุตรบุญธรรมตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 1598/28
4) ผู้ปกครอง ในกรณีที่ไม่มีบุคคลซึ่งอาจให้ความยินยอมตามมาตรา 1436 วรรคหนึ่ง (1) (2) และ (3) หรือมีแต่บุคคลดังกล่าวถูกถอนอำนาจปกครอง
หมายถึง ผู้ปกครองโดยคำสั่งศาล ตามมาตรา 1585
ผลของการที่ผู้เยาว์หมั้นโดยไม่ได้รับความยินยอม
การหมั้นที่ผู้เยาว์ทำโดยปราศจากความยินยอมของบิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองตามมาตรา 1436 วรรคหนึ่ง = ตกเป็นโมฆียะ ตามมาตรา 1436 วรรคสอง ผู้เยาว์มีสิทธิบอกล้างการหมั้นนั้นได้ หรือผู้เยาว์อาจให้สัตยาบันในการหมั้นได้เมื่อบรรลุนิติภาวะแล้วตาม ป.พ.พ.มาตรา 177 รวมถึงบิดามารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครองก็อาจให้สัตยาบันเกี่ยวกับสัญญาหมั้นที่ตกเป็นโมฆียะซึ่งทำให้การหมั้นนั้นสมบูรณ์มาแต่แรกเริ่มได้ตามมาตรา 177 ทั้งนี้ การให้สัตยาบันต้องเป็นไปตามเงื่อนไขเรื่องการให้การยินยอมตามมาตรา 1436 วรรคหนึ่ง
สำหรับการบอกล้างการหมั้นที่ตกเป็นโมฆียะ เป็นไปตามมาตรา 175(1) กล่าวคือ บิดา มารดา ผู้รับบุตรบุญธรรม หรือผู้ปกครอง คนใดคนหนึ่งมีสิทธิบอกล้างการหมั้นที่เป็นโมฆียะได้โดยลำพัง
กรณีที่บุคคลตามมาตรา 1436 วรรคหนึ่ง ไม่ให้ความยินยอมให้ผู้เยาว์ทำการหมั้นโดยปราศจากเหตุผล
ผู้เยาว์มีทางแก้ 2 ทาง ดังนี้
- ญาติของผู้เยาว์หรืออัยการ ยื่นคำร้องขอถอนอำนาจปกครอง บางส่วนหรือทั้งหมด ตามมาตรา 1582 และขอให้ตั้งผู้ปกครองคนใหม่
- ผู้เยาว์ที่อายุไม่ต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ หรือญาติของผู้อยู่ในปกครอง หรือ อัยการ ยื่นคำร้องขอถอนผู้ปกครอง ตามมาตรา 1594/8 และขอให้ตั้งผู้ปกครองคนใหม่
หากต้องการปรึกษาทนายความ คลิก
หรือติดตามทนาย ผ่าน Facebook : ทนายชลิตา แยม