คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 1944/2520
ข้อเท็จจริงเป็นอันยุติฟังได้ว่าจำเลยเป็นพี่ชายนางสุบิน จำเลยและนางสุบินตกลงแบ่งนามรดกกันคนละครึ่ง โดยนางสุบินได้ทางด้านทิศตะวันตก จำเลยได้ทางด้านทิศตะวันออก คือ นาแปลงพิพาทซึ่งจำเลยเข้าครอบครองทำอยู่ประมาณ 4 - 5 ปี จากนั้นได้อพยพครอบครัวไปอยู่ที่อื่นและได้ฝากนาพิพาทให้นางสุบินดูแลแทน เมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2513 นางสุบินได้ขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ในราคา 15,000 บาท แล้วโจทก์เข้าครอบครองทำนาพิพาทตลอดมาจนกระทั่งปี พ.ศ. 2516 จำเลยอพยพกลับมาทราบว่านางสุบินได้ขายนาพิพาทให้แก่โจทก์ จำเลยถือว่านาพิพาทยังเป็นของตนเพราะจำเลยมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการซื้อขายนาพิพาทให้โจทก์ จึงถือสิทธิเข้าทำนาในปี พ.ศ. 2516 เช่นนี้ การที่นางสุบินเอานาพิพาทของจำเลยไปขายให้แก่โจทก์โดยจำเลยมิได้รู้เห็นหรือยินยอมในการซื้อขายนาพิพาทดังกล่าว เท่ากับว่าเป็นการซื้อจากผู้ที่ไม่มีสิทธิที่จะขายให้แก่ตนได้ และการครอบครองของโจทก์ในนาพิพาทดังกล่าวหลังจากการซื้อขายซึ่งไม่มีผลผูกพันจำเลยผู้เป็นเจ้าของนาพิพาทแล้วไม่ว่าจะนานสักเพียงใดก็ตามเท่ากับเป็นการครอบครองแทนจำเลยผู้เป็นเจ้าของโจทก์มิได้สิทธิครอบครอง