Chalita and Associates Lawyer Office v1.4.3
083-691-4990
line@lawyerbefair
lawyerbefair@gmail.com
line@lawyerbefair
083-691-4990
โดย ทนายชลิตา หนูพลัด

การหมั้นไม่เป็นเหตุให้ฟ้องบังคับให้สมรสได้ ตาม ป.พ.พ.1438

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ 

         มาตรา 1438 บัญญัติว่า “การหมั้นไม่เป็นเหตุที่จะร้องขอให้ศาลบังคับให้สมรสได้ ถ้าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับในเมื่อผิดสัญญาหมั้น ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ” 

หากต้องการปรึกษาทนายความ คลิก

หรือติดตามทนาย ผ่าน Facebook : ทนายชลิตา แยม


เหตุที่ไม่สามารถบังคับให้ไปจดทะเบียนสมรสได้

         เนื่องจาก สัญญาหมั้นเป็นสัญญาที่มีลักษณะพิเศษแตกต่างจากสัญญาอื่นๆ ไม่สามารถฟ้องร้องให้ปฏิบัติตามสัญญาโดยขอให้ศาลบังคับให้คู่หมั้นอีกฝ่ายหนึ่งไปทำการสมรสกับคู่หมั้นอีกฝ่ายหนึ่งดังเช่นสัญญาอื่นๆ ที่บังคับให้คู่สัญญาปฏิบัติตามสัญญาได้ ทั้งนี้ เนื่องจาก การสมรสต้องเป็นเรื่องที่ชายและหญิงต้องยินยอมพร้อมใจกันกระทำด้วยความสมัครใจและมีเสรีภาพที่สุด ดังนั้น ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 1438 จึงไม่เปิดช่องให้มีการบังคับกันได้เหมือนเช่นสัญญาอื่นๆ และแม้ว่าชายหญิงจะได้อยู่กินกันฉันสามีภรรยามานานเพียงใด ก็ไม่สามารถฟ้องขอให้ศาลบังคับอีกฝ่ายให้ไปจดทะเบียนสมรสได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สัญญาหมั้นจึงไม่มีอำนาจบังคับในทางหนี้ (no obiligatory force)  นอกจากนี้ เพื่อเป็นการป้องกันมิให้ชายหญิงต้องจำใจสมรสกัน เพราะกลัวว่าจะต้องชดใช้เบี้ยปรับให้ตามสัญญาหมั้น ป.พ.พ.มาตรา 1438 ก็ยังบัญญัติอีกว่า ถ้าได้มีข้อตกลงกันไว้ว่าจะให้เบี้ยปรับในเมื่อผิดสัญญาหมั้น ข้อตกลงนั้นเป็นโมฆะ ทั้งนี้ เฉพาะแต่ข้อตกลงเรื่องเบี้ยปรับเท่านั้นที่ตกเป็นโมฆะ สัญญาหมั้นคงสมบูรณ์ทุกประการ 

         แต่อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะเรียกเบี้ยปรับเมื่อมีการผิดสัญญาหมั้นไม่ได้ ตาม ป.พ.พ.มาตรา 1438 แต่กฎหมายได้บัญญัติเรื่องค่าทดแทนกรณีผิดสัญญาหมั้นและการเรียกคืนของหมั้น ไว้ใน ป.พ.พ.มาตรา 1439 และ 1440 ซึ่งเมื่อมีการผิดสัญญาหมั้น อีกฝ่ายหนึ่งมีสิทธิเรียกเอาค่าทดแทนได้ และในกรณีที่ฝ่ายหญิงผิดสัญญาหมั้น หญิงต้องคืนของหมั้นให้แก่ฝ่ายชาย